ข้อแนะนำในการใช้ยาสมุนไพรและยาแผนปัจุบัน
1. ศึกษาให้แน่ใจว่ามีความรู้ในเรื่องผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ทั้งในด้านข้อบ่งใช้ วิธีใช้ ความปลอดภัย และข้อห้ามต่างๆ รวมถึงมาตรฐานการผลิต และควบคุมคุณภาพปริมาณสาระสำคัญที่แน่นอนเชื่อถือได้ โดยศึกษาหาความรู้จากหลายๆ แห่งที่น่าเชื่อถือ หรือมีเอกสารยืนยันรับรอง หรือพูดคุยกับแพทย์ เภสัชกร หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ
2. พิจารณาแล้วว่าประโยชน์ที่ได้รับสูงกว่าความเสี่ยงหรือผลข้างเคียงที่จะเกิดขึ้น
3. อ่านฉลากที่ติดมกับผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง ถ้าสงสัยควรสอบถามจากเภสัชกร หรือผู้ขายทันที
4. ควรใช้เฉพาะช่วงเวลาอันสั้น ถ้าอาการไม่ดี ควรไปพบเภสัชกรหรือแพทย์ใกล้บ้าน
5. ถ้าจะใช้หลายๆ ผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ควรปรึกษาผู้รู้ให้แน่ใจเสียก่อนว่าจะไม่มีปฏิกิริยาต่อกันระหว่างผลิตภัณฑ์ดังกล่าว รวมถึงการไปพบแพทย์ หรือเภสัชกร เพื่อปรึกษาด้านสุขภาพ ควรบอกกล่าวว่ามีผลิตภัณฑ์หรือยาใดบ้างที่ใช้อยู่เป็นประจำ
6. ในกรณีที่สงสัยว่าแพ้หรือมีปัญหาจากการใช้ผลิตภัณฑ์นั้น ควรหยุดใช้ทันที แล้วปรึกษาเภสัชกรหรือแพทย์ใกล้บ้าน
7. ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์โดยการหลงเชื่อคำแนะนำ จากผู้ที่ไม่มีความรู้ดีพอ หรือจากโฆษณาประชาสัมพันธ์
8. ติดตามข่าวสารทางด้านสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
9. เก็บผลิตภัณฑ์ทุกชนิดในที่ๆ เหมาะสม ไม่ร้อนเกินไปหรือถูกแดด และควรเก็บให้ไกลจากมือเด็ก
10. ยึดคติว่า “สร้างสุขภาพดีกว่าซ่อมสุขภาพ”
ข้อพึงรู้จากการใช้ยา
ยารักษาโรค คือ วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการบำบัด บรรเทา รักษาและป้องกันการเจ็บไข้ได้ป่วยของมนุษย์หรือสัตว์ทั้งนี้เพราะอาการเจ็บป่วยของมนุษย์เรามีระดับความรุนแรงที่แตกต่างกัน ยาที่ใช้จึงจำเป็นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้การบำบัดรักษาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และปลอดภัยที่สุด
ในปัจจุบันคนไข้ส่วนใหญ่ มักจะรักษาตัวเองมาก่อนที่จะมาพบแพทย์เสมอ การรักษาโรคด้วยตนเอง โดยไม่ผ่านการตรวจจากแพทย์ และการซื้อยาโดยไม่มีเภสัชกรเป็นผู้ขาย ผู้ป่วยจะไม่มีโอกาสทราบว่าเป็นยาแพ้ ยาปลอม ยาผิดมาตรฐาน ยาเสื่อมคุณภาพ หรือจะใช้ยาอย่างไรจึงจะถูกต้องตามความมุ่งหมาย จึงนับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง
ดังนั้นการหันมาให้ความสนใจในเรื่องของชนิดยาอย่างจริงจังจึงนับเป็นเรื่องสำคัญและสมควรอย่างยิ่ง เพราะยาคือหนึ่งในสี่ของปัจจัยที่จะทำให้การดำรงชีวิตของเราดำเนินไปอย่างปกติสุข
ข้อควรระวังในการใช้ยาแผนปัจจุบัน
1. ไม่ควรใช้ยาที่ไม่ตรงตามคำแนะนำของแพทย์ หรือคำแนะนำที่แจ้งเอาไว้ในเอกสารกำกับยา เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายและอาจทำให้ดื้อยาบางชนิดได้
2. ไม่ควรใช้ยาบางประเภทในทางที่ผิด เช่น ยาสงบประสาท ยาแก้ง่วงหรือยานอนหลับ เพราะยาเหล่านี้มีฤทธิ์ต่อจิตและประสาท หากใช้บ่อยๆ อาจเกิดการติดยา จนต้องรับประทานยาเหล่านี้อยู่เป็นประจำ และต้องเพิ่มขนาดการใช้ยามากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายหรืออาจถึงแก่ชีวิตได้
3. ควรสังเกตฉลากยา ว่าเป็นยาที่หมดอายุแล้วหรือไม่ เพราะยาหมดอายุ ยาเสื่อมคุณภาพ ไม่คงสภาพในการใช้ หากรับประทานเข้าไปอาจเกิดอันตรายได้
4. การรับประทานยาปลอม ยาผิดมาตรฐานอาจทำให้โรคไม่หาย มีอาการทรุดหนักลง เชื้อเกิดดื้อต่อยา แม้ใช้ยาเหล่านี้ในขนาดรักษาที่ถูกต้องก็จะไม่ได้ผล จึงควรสังเกตฉลากยา ดูชื่อผู้ผลิต ผู้จำหน่าย และเลขทะเบียนด้วย
5. หากเกิดอาการแพ้ยาในขณะใช้ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที แต่ในบางกรณีอาจไม่ปรากฏอาการแพ้ในระยะสั้น ดังนั้นจึงควรสังเกตเป็นระยะๆ เมื่อเริ่มใช้ยา
ปัจจุบันในงานสาธารณสุขมูลฐานตลอดจนในบัญชียาหลักแห่งชาติได้มีการส่งเสริมและเผยแพร่ให้ใช้สมุนไพรเพื่อรักษาโรคกันอย่างแพร่หลายด้วยตนเอง โรคหรืออาการของโรคเบื้องต้นที่แนะนำให้ใช้สมุนไพรได้แก่ อาการไอ ขับเสมหะ อาการไข้ อาการขัดเบา อาการนอนไม่หลับ อาการเคล็ด ขัดยอก เป็นต้น และสำหรับโรคร้ายแรง หรือโรคที่ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่ารักษาด้วยสมุนไพรได้ ควรไปพบแพทย์จะเป็นการรักษาที่ถูกวิธีที่สุด
การใช้ยาสมุนไพรไม่ค่อยเป็นพิษ หรือมีอาการข้างเคียงมาก เพราะส่วนมากมีฤทธิ์อ่อนอีกทั้ง ยังมีราคาถูกกว่ายาแผนปัจจุบันมาก นอกจากนี้ สมุนไพรบางชนิดสามารถปลูกเองในครอบครัวได้ และยังเป็นการประหยัดรายจ่ายของครอบครัวอีกด้วย อย่างไรก็ดี ควรติดตามข่าวความรู้เรื่องสมุนไพรที่ใช้เป็นระยะๆ ด้วย
ข้อควรระวังในการใช้ยาสมุนไพร
1. ใช้ให้ถูกต้น เนื่องจากสมุนไพรมีชื่อพ้องหรือซ้ำกันมาก อาจเกิดการสับสนการใช้สมุนไพรผิดต้น อาจทำให้เกิดอันตรายได้
2. ใช้ให้ถูกส่วน แต่ละส่วนของพืชมีสารออกฤทธิ์ไม่เท่ากัน และอาจไม่เหมือนกัน บางส่วนไม่มีฤทธิ์ตามต้องการ ดังนั้นต้องนำมาใช้ให้ถูกส่วน
3. ใช้ให้ถูกขนาด ถ้าใช้น้อยหรือมากเกินไป อาจไม่มีผลต่อการรักษา
4. ใช้ให้ถูกวิธี บางชนิดต้องใช้สด บางชนิดต้อปิ้งไฟก่อน การเตรียมผิดวิธีนี้อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้
5. ใช้ให้ถูกกับโรค ต้องทราบโรคที่ถูกต้องก่อนที่จะใช้สมุนไพร เพราะถ้าวินิจฉัยผิดก็รักษาไม่หาย และอาจก่อให้เกิดโทษได้
6. ถ้าเป็นยาที่ไม่เคยรับประทานมาก่อน ควรเริ่มกินในขนาดน้อยๆ ก่อน ถ้าไม่มีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกาย จึงค่อยรับประทานในขนาดปกติต่อไป
7. อย่าใช้ยาเข้มข้นเกินไป เพราะทำให้เกิดพิษได้
8. ไม่ควรรับประทานยาตัวเดียวกันทุกวันเป็นเวลานานๆ โดยไม่จำเป็น โดยทั่วไปไม่ควรรับประทานยาติดต่อกันนานเกินหนึ่งเดือน เพราะอาจทำให้เกิดพิษสะสมได้
9. ห้ามใช้ยามากในเด็กอ่อน คนชรา และคนที่อ่อนเพลียมาก เพราะคนเหล่านี้กำลังต้านทานยาน้อย
10. ผู้ป่วยที่เป็นโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ตับ ไต ความดัน หอบหืด ฯลฯ อาจมีข้อห้ามใช้กับสมุนไพรบางชนิด ดังนั้นก่อนใช้ยาจึงควรศึกษาให้แน่ชัดก่อน