แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
บาดแผลจากไฟไหม้ น้ำร้อนลวก มักเกิดจากอุบัติเหตุ และความประมาทเลินเล่อ ทำให้เป็นแผลซึ่งลักษณะของบาดแผลไฟไหม้มี 4 ระดับคือ ระดับหนึ่ง ผิวหนังไม่แตก ระดับสอง มีตุ่มพองและหนังแตก ระดับสาม ผิวหนังทุกชั้นถูกทำลายและเป็นแผลเปิด ระดับสี่ ผิวหนังมีรอยไหม้ดำ เมื่อเป็นแผลจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน ทุรนทุราย
การดูแลรักษาด้วยตนเอง
· ล้างแผลวันละครั้งด้วยน้ำอุ่นหรือน้ำละลายด่างทับทิม และปิดพันแผลให้เรียบร้อย ถ้ามีน้ำเหลืองออกมามาก ให้ทำแผลเพิ่มขึ้นวันละ 2-3 ครั้ง
· ดื่มน้ำมากๆ อย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
· พักผ่อนมากๆ และให้อยู่นิ่งๆ
· หากทำการรักษาแล้ว 3 วัน อาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ทันที
สมุนไพรประจำบ้าน
· บัวบก Centella asiatica Linn. Urban
รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
: ใช้บัวบกทั้งต้นสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาดและตำให้ละเอียด คั้นน้ำ และเอาน้ำทาชะโลม บริเวณที่เป็นแผล
· มะพร้าว Cocos nucifera Linn.
รักษาบาดแผล : ใช้ผลแก่ เจาะเอาแต่น้ำมาเคี่ยวเป็น “น้ำมะพร้าว” ผสมน้ำมันมะพร้าว 1 ส่วน ใส่ในภาชนะ คนพร้อมๆ กับเติมน้ำปูนใส 1 ส่วน ทีละน้อยจนเข้ากันดี ทาบ่อยๆ บริเวณแผล
ยาจากสมุนไพรสำเร็จรูป
· เจลว่านหางจระเข้
- มีการศึกษาการใช้เจลว่านหางจระเข้ ในผู้ป่วยบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกระดับสอง เปรียบเทียบกับการใช้ยาแผนปัจจุบัน เมื่อปี 2535 โดยศาสตราจารย์ น.พ.วิวัฒน์ วิสุทธิโกศล และ คณะโรงพยาบาลรามาธิบดี พบว่า ผู้ป่วยที่ทาด้วยเจลว่านหางจระเข้ บาดแผลจะหายเร็วกว่าการใช้ยาแผนปัจจุบัน
- มีการศึกษาในต่างประเทศ พบว่าเจลว่านหางจระเข้เข้มข้น ยังใช้ทารักษาผิวไหม้ที่เกิดจากแดดเผา และจากการฉายรังสีได้ด้วย
- ปัจจุบันสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรมได้พัฒนามาตรฐานการผลิตและควบคุมคุณภาพ พัฒนาวุ้นจากว่านหางจระเข้เป็นเจลว่านหางจระเข้สำเร็จเป็นรายแรก และเป็นสูตรตำรับเดียวในประเทศที่มีวุ้นว่านหางจระเข้ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 87.4% โดยไม่ผสมกับสารชนิดอื่น
- กระบวนการผลิตเจลว่านหางจระเข้มีความสำคัญเนื่องจากมีผลต่อประสิทธิภาพ และความคงตัวของยา จึงต้องใช้วัตถุดิบที่สด สะอาด พิถีพิถันทุกขั้นตอน เพื่อให้สาระสำคัญยังคงอยู่ในปริมาณสูง ภายในพื้นที่ที่ควบคุมและปลอดเชื้อเป็นพิเศษ จึงปลอดจากสารปนเปื้อนใดๆ
- ใช้ทาบริเวณที่ถูกไฟไหม้ น้ำร้อนลวก วันละ 2-3 ครั้ง