ReadyPlanet.com
dot
dot
สมุนไพรยุคใหม่
dot
bulletผลวิจัยสมุนไพรยุคใหม่
bulletผลวิจัยสมุนไพรต้านมะเร็ง
dot
ภาพสมุนไพรและสรรพคุณ
dot
bulletภาพสมุนไพร และสรรพคุณ จำนวน 712 ชนิด ( ชมภาพขนาด 500 X 375 Px)
dot
ประสบการณ์ ผู้ใช้สมุนไพร
dot
bulletประสบการณ์ที่ 1
bulletประสบการณ์ที่ 2
bulletประสบการณ์ที่ 3
dot
ข้อแนะนำในการใช้ยาสมุนไพรและยาแผนปัจุบัน
dot
bulletการใช้ยาสมุนไพรและยาแผนปัจจุบัน
dot
สรรพคุณสมุนไพร แก้โรคต่างๆ 42 โรค
dot
bullet แก้ไข้
bulletแก้ตกโลหิต/ห้ามเลือด
bulletแก้ตับทรุด ม้ามย้อย
bulletแก้ตานซาง
bulletท้องร่วง แก้บิด
bulletแก้นำเหลืองเสีย
bulletแก้ประดง
bulletแก้พิษเบื่อเมา
bulletแก้พิษแมลงสัตว์กัดต่อย
bulletแก้พิษอักเสบ
bulletแก้ริดสีดวงทวาร
bulletแก้โรคตา
bulletแก้โรคผิวหนัง
bulletแก้โรคฟัน
bulletแก้โรคหู
bulletแก้สะอึก
bulletแก้เสมหะ ( คูถเสมหะ)
bulletแก้เสมหะ (ศอเสมหะ)
bulletแก้เสมหะ (อุระเสมหะ)
bulletแก้อักเสบ ฝี หนอง มะเร็ง
bulletแก้อาเจียน
bulletแก้ไอ ขับเสมหะ
bulletแก้ไอ หรืออาเจียนเป็นโลหิต
bulletขับปัสสาวะ และนิ่ว
bulletขับพยาธิ์ลำไส้
bulletขับลมในลำไส้ (บำรุงธาตุ)
bulletขับโลหิตระดู
bulletขับเหงื่อ
bulletเจริญอาหาร
bulletทำให้ถ่ายอย่างแรง
bulletทำให้ระบายท้อง
bulletทำให้อาเจียน
bulletบำรุงครรภ์รักษา
bulletบำรุงนำดี
bulletบำรุงนำนม/ขับนำนม
bulletบำรุงประสาท
bulletบำรุงปอด
bulletบำรุงโลหิต
bulletบำรุงเส้นเอ็น
bulletบำรุงหัวใจ
bulletฟอกโลหิตระดู
bulletอายุวัฒนะ
dot
การใช้สมุนไพร ยามเจ็บป่วย
dot
bulletอาการไข้ ตัวร้อน
bulletอาการไอ
bulletกลิ่นปาก และ แผลในปาก
bulletปวดฟัน
bulletปวดเจ็บท้อง จุกแน่น หรือแสบแน่นท้อง
bulletท้องเสีย ท้องเดิน
bulletท้องผูก
bulletอาเจียน
bulletผดผื่นคัน โรคผิวหนัง
bulletแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
bulletแผลอักเสบ สิว หนอง
bulletปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ปวดตามข้อ
dot
ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณ
dot
bulletยาสามัญประจำบ้าน 27 ขนาน ตามประกาศกระทรวง
dot
สูตรยาสมุนไพรโบราณ รักษาโรค 200 สูตร
dot
bulletยาแก้ขัดเบา
bulletยาแก้ไข้
bulletยาแก้ไข้ทับระดู
bulletยาแก้ไข้ท้องร่วง
bulletยาแก้ไข้ระงับพิษ
bulletยาแก้ไข้หวัด
bulletยาแก้ไข้หวัดใหญ่
bulletยาแก้ไข้หืด หัด สุกใส
bulletยาแก้ความจำเสื่อม
bulletยาแก้ความดันโลหิตสูง
bulletยาแก้งูสวัด
bulletยาแก้เด็กเป็นซาง
bulletยาแก้ตกเลือด
bulletยาแก้ตับทรุด
bulletยาแก้ตาแดง ตาเจ็บ
bulletยาแก้ตานขโมย
bulletยาแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ
bulletยาแก้ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ
bulletยาแก้ท้องเดิน ท้องเสีย
bulletยาแก้ท้องร่วง
bulletยาแก้ท้องอืด
bulletยาแก้นิ่ว
bulletยาแก้บิด มูกเลือด
bulletยาแก้ปวดฟัน
bulletยาแก้ปัญหาทางเพศ
bulletยาแก้ปวดเมื่อย
bulletยาแก้ปวดหลัง
bulletยาแก้ปวดหู
bulletยาแก้พิษบาดทะยัก
bulletยาแก้ มดลูกอักเสบ
bulletยาแก้ระดูไม่มาตามกำหนด
bulletยาแก้ร้อนในกระหายนำ
bulletยาแก้โรคกระเพาะ
bulletยาแก้โรคกระษัย
bulletยาแก้โรคดีซ่าน
bulletยาแก้โรคตับ
bulletยาแก้โรคเบาหวาน
bulletยาแก้โรคมะเร็ง
bulletยาแก้โรคริดสีดวงจมูก
bulletยาแก้โรคริดสีดวงทวาร
bulletยาแก้โรคลมต่างๆ
bulletยาแก้โรคหนองใน
bulletยาแก้เหน็บชาและอัมพาต
bulletยาแก้อาการผิดสำแดง
bulletยาแก้ไอ
bulletยาขับปัสสาวะ
bulletยาขับและฆ่าพยาธิ
bulletยาชะลอความชรา
bulletยาดองเหล้า
bulletยาทารักษาบาดแผลสด
bulletยาทำให้ผิวพรรณสวยงาม
bulletยาบำรุงกระดูก
bulletยาบำรุงกำลัง
bulletยาบำรุงไต แก้กามตายด้าน
bulletยาบำรุงธาตุ เจริญอาหาร
bulletยาบำรุงร่างกาย
bulletยาบำรุงโลหิต
bulletยารักษาธาตุ
bulletยาลดไขมัน
bulletยาสตรีที่ประจำเดือนผิดปกติ
bulletยาสตรีปวดประจำเดือนมาก
bulletยาสตรีวัยทอง
bulletยาเสาธงเหล็ก
bulletยาหม่องนำ ดมแก้หวัด
dot
ยาอายุวัฒนะ
dot
bulletชุดที่ 1 จำนวน 12 ขนาน
bulletชุดที่ 2 จำนวน 27 ขนาน
dot
ยอดยาสมุนไพร ขนานเอก ยุค จิ๋นซีฮ่องเต้
dot
bulletสูตรไข่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก
dot
ยอดตำรายาสมุนไพรไทย
dot
bulletตำรายาเหงือกปลาหมอ
bulletตำรายาหัวกวาวเครือ
dot
สมุนไพรที่น่ารู้จัก
dot
bulletเรื่องที ๑ สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
bulletเรื่องที่ ๒ สมุนไพร โสม
bulletเรื่องที่ ๓ เห็ดหลินจือกับแพทย์แผนปัจจุบัน
bulletเรื่องที่ ๔ สารสกัดจากเปลือกต้นสนมาริไทม์
dot
สาระน่ารู้ เคล็ดลับร้อยแปด
dot
bulletข่าวจากหนังสือพิมพ
bulletอาหารที่ทำให้อายุสั้น 10 อย่าง
bulletนมกับผลร้ายเมื่อดื่ม
bulletผลร้ายของการดื่มนม – ความลับด้านหลังดวงจันทร์
bulletประสบการณ์และข้อคิด อีกมุมหนึ่งของการดื่มนม
bulletอ่านสุขภาพจากการตรวจด้วยเทคโนโลยียุคใหม่
bulletเหตุที่คนญี่ปุ่นไม่ดื่มชาเขียวแช่เย็น
bulletเผยเคล็ดลับคนดังลดน้ำหนักอย่างได้ผล
dot
Updateข่าวสมุนไพร
dot
bulletข่าวจากหนังสือพิมพ์
dot
Newsletter

dot




ผลร้ายของการดื่มนม – ความลับด้านหลังดวงจันทร์

 

ผลร้ายของการดื่มนม – ความลับด้านหลังดวงจันทร์
     โดย    นายแพทย์ บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล
 
                นมวัว ได้ลงหลักปักฐานในประเทศไทยในระยะ 20 ปี มานี้ มีการยกย่องนมวัวว่าเป็นอาหารสมบูรณ์แบบ คนไทยได้เพิ่มอัตราการดื่มนม 10 เท่าตัว ควบคู่กับการกินเนื้อสัตว์ล้นเกิน แต่ลดอัตราการกินข้าวและกินผักสดผลไม้
                คนไทยจึงอ้วน 25-30%ไขมันเลือดสูง 50% ของผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง เป็นภูมิแพ้ 12 ล้านคน คนไทยตายด้วยโรคหัวใจหลอดเลือดเป็นอันดับแรก และตายด้วยโรคมะเร็งเป็นอันดับที่สอง
                ทั้งนี้เพราะวิถีการกินที่เปลี่ยนไป เป็นแผนการกินแบบตะวันตก คือเน้นหนักการกินเนื้อ นม ไข่
                เบื้องหน้าปัญหาใหม่ ๆ ถ้าใครที่มีหัวคิดอันเป็นวิทยาศาสตร์ไม่ต้องถึงกับเป็นแพทย์ก็ได้ แต่สำคัญคือเป็นผู้มีใจสูง ใจกว้าง ไม่ยึดติดเพียงสิ่งที่ถือต่อ ๆ กันมา เขียนมาในตำรา ก็น่าที่จะได้ค้นคว้าเพิ่มเติมว่า มีอะไรที่ผิดพลาดบ้างในวิถีการกินของผู้คนชาวไทย มีอะไรที่ควรแก้ไขในคำสอนบางประการของผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับสุขภาพของประชาชน
                เราน่าจะใช้จิตใจของชาวพุทธ ใช้กาลามสูตรพิเคราะห์ข้อเท็จจริงใหม่ ๆ ดูบ้างหรือไม่
                สรรพสิ่งทั้งหลายย่อมมี 2 ด้าน นมได้รับการเผยแพร่ในด้านดีมาแล้ว โดยเฉพาะในยุคที่คนไทยขาดอาหาร แต่ปัจจุบันเมื่อสังคมแปรเปลี่ยน
            ผลด้านกลับของการดื่มนมก็น่าที่จะหยิบยกกันขึ้นมาพิจารณาในอีกด้านหนึ่งบ้าง
·        นมก่อให้เกิดภูมิแพ้
เราคงจำกันได้ว่า เมื่อสมัยที่นมสดเริ่มแจกกันตามโรงเรียนใหม่ ๆ สัก 30 ปีที่แล้ว แจกตอนเช้า บ่ายนั้นห้องส้วมที่โรงเรียนก็แทบจะพัง เพราะอาการท้องเสีย นั่นคือปรากฏการณ์ใกล้ตัวที่สุด
แท้จริงแล้วนมก่อให้เกิดมูกเมือกในร่างกายด้วยปฏิกิริยาภูมิแพ้ ทำให้ไซนัสอักเสบและหอบหืด เรื่องนี้ยืนยันในรายงานนับชิ้นไม่ถ้วน เช่น น.พ.ซามี มาห์นา ใน  Advances in Pediatrics, Vol 25, 1978 งานของ เจ.ดับบลิว, เกอราร์ด ใน Canadian Medical Association, Vol 97, Sept 1967 งานของเอ.บี.เมอเรย์ ใน Lancer, Vol I, Mar 1971
ในประเทศไทย ศาสตราจารย์กิตติคุณ เสาวนีย์ จำเดิมเผด็จศึก ก็รายงานการพบการแพ้อาหารของเด็กกลุ่มใหญ่ ปรากฏว่าเกิดจากการแพ้นมวัวเป็นส่วนใหญ่ ปรากฏว่าเกิดจากการแพ้นมวัวเป็นส่วนใหญ่ ตามด้วยไข่และปลา การแพ้พบมากใน 0-3 ขวบ รวมทั้งนักวิจัยชื่อ Bock. SA. ใน Pediatrics 1987, 79:683-8
สาระสำคัญที่ทำให้แพ้คือ เคซีน และ Beta lactoglobulin อาการมีมากน้อยตามแต่ละบุคคล
 
 
·      
  นมเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อไขมันเลือดสูง โรคหัวใจ
ประเด็นนี้ตรงไปตรงมาอย่างยิ่ง ด้วยการที่มีไขมันอิ่มตัว มีคอเลสเตอรอล และไม่มีเส้นใย นมจึงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคไขมันเลือดสูง โรคความดันเลือดสูง และโรคหัวใจอยู่แล้ว
ลองฟังเรื่องราวต่อไปนี้ คุณสัมพันธ์ป่วยด้วยโรคไขมันเลือดสูง มีความดันเลือดสูง และมีภาวะหัวใจขาดเลือดในบางครั้ง ได้รับยาหัวใจมาตลอด 10 ปี ร่วมกับยาลดไขมัน และยาลดความดันรวม 4-5 ขนาน
คุณสัมพันธ์เล่าว่า “ไขมันผมเคยสูงอยู่เสมอ ๆ หมอให้ผมทานยาลดไขมัน ผมอดอาหารประเภทไขมัน 100%แต่ดื่มนมจืดพร่องมันเนยวันละ 1 กล่อง ครบเดือนทีก็ไปเช็ก ปรากฏว่าไขมันขึ้นอยู่ตลอด”
คุณสัมพันธ์เปลี่ยนอาหารเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็คืออาหารพื้นถิ่นแบบไทย ๆ เขาเล่ามาในจดหมายดังนี้ครับ
“ผมกินข้าวกล้อง ซึ่งผลไม้ใส่ตู้เย็นไว้ กาแฟไม่ทาน ผมเลิกกาแฟ-นม-น้ำอัดลม ผลก็ปรากฏว่า น้ำหนักของผมค่อยลดลงได้ถึง 9.5 ก.ก. ในเวลาไม่กี่เดือน ผมงดยาลดไขมัน ทิ้งมันไปอย่างไม่เสียดาย แต่กลับสามารถลดคอเลสเตอรอลลงได้จาก 322 มก% เหลือ 214 มก% แสดงว่านมโกหกเรา” คุณสัมพันธ์ยังสามารถลดยาความดันเหลือนิดเดียว
            กรณีคุณสัมพันธ์เป็นตัวอย่างอันดีของคนไทยจำนวนมากในขณะนี้ที่ดื่มนมด้วยคิดว่าดีมีประโยชน์ แต่ต้องผจญกับผลเสียโดยทั้งตัวเองและแพทย์ผู้รักษาก็คาดคิดไม่ถึง
                โดยเฉพาะคำว่า “นมพร่องไขมัน” มักมีแรงจูงใจให้คนหลงดื่ม
                ปัญหาไขมันในเลือดสูงปัจจุบันแพร่ระบาดในเด็กด้วย งานวิจัยของ น.พ.ดร.ประสงค์ เทียนบุญสำรวจปี 2538 ในกลุ่มที่มีฐานะดี เรียนโรงเรียนเอกชน พบผลดังนี้คือ
เด็กอายุ                                                  คอเลสเตอรอล > 170 mg%                                                คอเลสเตอรอล > 200 mg%
<6 ปี                                                                      25%                                                                           5%
6-15 ปี                                                                    70%                                                                        10-20%
            เป็นที่รู้ดีว่าอาหารของเด็กฐานะดีในสังคมเมืองคือ ฟาสต์ฟู๊ดแบบตะวันตก นมและผลิตภัณฑ์นม รวมทั้งอาหารสำเร็จรูปอื่น ๆ
·        นมเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็ง
น.พ.มิกเกล ฮินด์ฮึด ผู้รับผิดชอบอาวุโสสถาบันวิจัยโภชนาการแห่งชาติเดนมาร์ก เมื่อปี 1917-1918 เดนมาร์กกำลังเผชิญวิกฤตเพราะถูกปิดล้อมในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1
เขาได้โน้มน้าวให้รัฐบาลเดนมาร์กเบนเข็มจากการผลิตนมเนย มาใช้ที่ดินปลูกพืชไร่สนองธัญพืชให้คน เป็นผลให้คนเดนมาร์กยุคสงครามได้กินข้าวบาร์เลย์ ข้าวราย มันฝรั่ง แทนการดื่มนมบริโภคเนย
ปรากฏว่าอัตราการเกิดโรคมะเร็งลดลงฮวบฮาบถึง 34% (JAMA 74:381-82,1920)
ปี 1978 คากาวาตั้งข้อสังเกตว่า ชาวญี่ปุ่นที่โอกินาวามีคนอายุยืนกว่าร้อยจำนวนมาก คนเหล่านั้นกินอาหารพื้นถิ่น   ข้าวกล้อง ผัก เต้าหู้ ปลา สาหร่าย แต่ไม่ดื่มนมเลย
เขาศึกษาพบว่า ช่วงเวลา 25 ปี หลังญี่ปุ่นแพ้สงคราม คือ 1950-1975 ชาวญี่ปุ่นดื่มนมเพิ่มขึ้น 15 เท่า กินเนื้อสัตว์เพิ่มขึ้น 7.5 เท่า ลดการกินข้าวลง 70%
ผลก็คือ หญิงชาวญี่ปุ่นป่วยเป็นมะเร็งปอด เต้านม และลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นจากเดิมกว่า 3 เท่าตัว (Preventive Medicine, 7:205-17)
                ที่สหรัฐ ดร.แคเธอรีน โวเดกี ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ สหรัฐอเมริกา ชี้ไว้ในปี 1992 ว่า “หลักฐานศึกษามากมายยืนยันว่า การกินอาหารไขมันสูงสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเต้านม
                และแหล่งใหญ่ของกรดไขมันอิ่มตัวในอาหารอเมริกัน ก็คือผลิตภัณฑ์นมและเนื้อสัตว์ (Eat for life, Academy press: 1992)
                หลังสุด การประชุมวิชาการโดยกองทุนวิจัยมะเร็งโลก (WCRF) และสถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติสหรัฐ (AICR) 1997 สรุปว่า สิ่งที่เพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งโดยรวมได้แก่ แอลกอฮอล์ เกลือ อาหารเค็ม เนื้อแดง ไข่ อาหารปิ้ง ย่าง เผา อาหารไขมันจากสัตว์ คอเลสเตอรอล นมและผลิตภัณฑ์นม น้ำตาล กาแฟ สารเจือปน อาหาร บุหรี่ โรคอ้วน ฯลฯ
                มีนักวิชาการบางคนบอกว่า ข้อสรุปของการประชุมครั้งนั้น “เป็นเพียงอาจเป็นไปได้เท่านั้น” จากนั้นก็เริ่มหาเหตุผลแวดล้อมต่าง ๆ อีกมากเพื่อยืนยันความเชื่อในทฤษฎีของตน ที่ว่าประชาชนจะต้องดื่มนมต่อไป
                ถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า นมวัวนอกจากเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งของร่างกายแล้ว ปัญหาที่ใหญ่กว่านั้นก็คือการติดยึดในความดีด้านเดียวของนมยังก่อให้เกิดมะเร็งความคิดในหมู่ผู้คนอีกด้วย
                แต่ปัจจุบันประชาชนมีการศึกษาแล้ว ขอแต่ให้มีข้อมูลอันทั่วด้านกว่าที่เคยเป็นอยู่ ผู้บริโภคย่อมใช้วิจารณญาณเองได้






Copyright © 2010 All Rights Reserved.

เอ็กซ์ฟากรุ๊ป
โทร. 02-5384438 085-6898413 Fax. 02-5304938