สมุนไพร รักษาโรค 200 สูตร
นับเป็นเป้าหมายสำคัญประการหนึ่ง ของ Insideherb.comm ที่จะร่วมรักษาสูตรยาสมุนไพรอันทรงคุณค่า
ของคนไทยที่มีมาช้านาน มิให้สาบสูญ หลังจากที่เคยมีการมุ่งทำลายไปครั้งหนึ่ง ซึ่งก็สูญหายไปมาก ที่ยังคงมีกันอยู่
ถึงวันนี้ ก็เพราะการจดจำและบอกเล่าสืบต่อกันมา บางส่วนก็แอบเก็บเอาไว้บ้าง เท่าที่เราพอจะหามาได้ก็จากการอนุเคราะห์
ของครูบาอาจารย์ ท่านที่เคารพนับถือ ตัวแพทย์แผนไทย หนังสือในงานเทศกาล งานพิธีหรืองานศพต่างๆที่มีการพิมพ์เผย
แพร่กันออกมา กลุ่มแพทย์แผนไทยของเรา ได้พยายามคัดเลือกและตรวจทานสรรพคุณ สูตรสมุนไพรต่างๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับโรคสมัยปัจจุบันได้เป็นอย่างดี นับเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล แต่ละสูตรล้วนมีดีในตัวและผ่านการทดสอบมา
แล้วเป็นอย่างดี และขอขอบคุณเจ้าของสูตรทั้งหลายที่ไม่ยอมบอกกล่าวชื่อเสียงไว้เลย อานิสงสิ่งดีๆทั้งหลายจงบังเกิดแก่ท่านเทอญ
( ท่านที่มีสูตรยาสมุนไพรดีๆ จะส่งมาให้เราช่วยเผยแพร่ ส่งมาได้เลย ทางเว็บบอร์ดของเรา )
ยาอายุวัฒนะ ภาคพิเศษ 27 ขนาน
ยาอายุวัฒนะ : กระชากวัย
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 1 |
- หัวกระชายแก่ 4 บาท
- เหง้าขิง 4 บาท
- หัวกะทือ 4 บาท
- ดอกดีปลี 4 บาท
- เนื้อสมอไทย 4 บาท
- โด่ไม่รู้ล้ม 4 บาท
- รากเจตมูลเพลิงแดง 4 บาท
- พริกไทยล่อน 10 บาท
- หรตาลกลีบทอง 8 บาท
สมุนไพร เหล่านี้ต้องล้างให้สะอาด แล้วฝานหรือสับตากแห้ง แล้วบดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งปั้นลูกกลอน รับประทานวันละ 1 เม็ดพุทรา ท่านว่าจะไม่มีอาการอ่อนเพลีย เดินทางไกล หรือขึ้นเขาลงห้วยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย คนกินประจำแม้แก่เฒ่าก็จะกลับเหมือนคนหนุ่ม
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 2 |
ยาขนานนี้เป็นตำราเมืองเหนือ เกิดขึ้นในสมัยที่พม่าครองเมืองล้านนาถึง 200 กว่าปี (ตั้งแต่ พ.ศ.2094-2324) คนเมืองเหนือและคนพม่าก็มีความสนิทชิดใกล้กัน ไปมาหาสู่กันมิได้ขาด มีเรื่องเล่าว่า ยังมีกะทาชายนายหนึ่งอายุมากแล้ว เมื่อภรรยาถึงแก่กรรมลูกหลานก็ไม่เหลียวแล ร่างกายก็ซูบผอม กินไม่ได้นอนไม่หลับ หาเรี่ยวแรงมิได้ จึงระหกระเหินออกจากบ้านไปพบพระหม่ารูปหนึ่งก็ขออาศัยข้าวก้นบาตรท่านยังชีพ คอยรับใช้ท่านไปในตัว พระท่านเห็นร่างกายหาเรี่ยวแรงมิได้ก็ประกอบยาให้รับประทาน ผ่านไป 1 เดือนร่างกายก็กลับมีกำลังวังชาขึ้นมา โรคภัยที่เคยเป็นก็หายไป ต่อมาพระพม่าเดินทางกลับไปเยี่ยมญาติของท่านที่ประเทศพม่า ชายชราคนนี้ก็ติดตามไปด้วย และกินยานี้อยู่ประจำ อยู่พม่าได้ปีเศษ ร่างกายก็ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลง ผมที่ขาวโพลนก็กลับดำ ผิวพรรณวรรณะก็เปล่งปลั่ง ผิวหนังเต่งตึงดูเหมือนคนอายุสามสิบเศษ เมื่อพระพม่าเดินทางกลับไทยก็ติดตามกลับมาด้วย แล้วกลับไปเยี่ยมลูก ๆ ญาติ ๆ ในหมู่บ้าน ใคร ๆ ก็จำแกไม่ได้ ดูก็คลับคล้าย คนทั้งหมู่บ้านแปลกใจพากันมาดู บ้างก็ว่าใช่ บ้างก็ว่าไม่ใช่ ทั้งนี้เพราะแกเปลี่ยนเป็นคนหนุ่มเร็วเกินไป อายุ 75 ปีกลับกลายเป็นดุจอายุสามสิบกว่าปีมันก็น่าฉงนอยู่ ต่อมาแกก็ได้เมียสาวคราวลูก มีลูกอีก 3 คน แล้วท่านก็ได้บอกตำรายาของพระพม่าไว้ให้คนทั้งหลายได้ปรุงกิน คนมีบุญทำกินก็ได้ประโยชน์ไปตามนั้น คนไม่มีบุญก็ไม่เชื่อ ก็หาทำกินกันไม่ ก็เป็นเช่นนี้มาทุกยุคสมัย ถ้าไม่เป็นดังนี้ คนเชื่อกันทั้งบ้านทั้งเมืองก็คงเป็นหนุ่ม อายุยืนยาวกันหมดแหละครับ ตำรายามีดังนี้
- รากช้าพลู 1 ตำลึง
- รากมะแว้งต้น 1 ตำลึง
- รากมะแว้งเครือ 1 ตำลึง
- เถาบอระเพ็ด 1 ตำลึง
- รากเจตมูลเพลิง 1/2 ตำลึง
เมื่อได้ตัวสมุนไพรมาครบแล้วต้องล้างให้สะอาด แล้วสับเป็นชิ้น ๆ ตากแดดให้แห้งดีแล้วจึงบดให้เป็นผง จากนั้นจึงนำขึ้นเครื่องชั่ง ไม่จำเป็นต้องให้ได้ 1 ตำลึง จะเป็น 100 กรัมก็ได้ ส่วนรากเจตมูลเพลิงใช้ครึ่งขีดก็พอ จากนั้นจึงผสมน้ำผึ้งให้เปียกแล้วใส่ภาชนะปิดฝาให้มิดชิด เก็บไว้ในที่ร่ม (ตำราว่าฝังในข้าวเปลือก 7 วัน) เป็นเวลา 7 วัน จึงนำออกรับประทานทุกวัน ๆ ละ 1 เม็ดพุทราดิบ ท่านว่าภายใน 6 เดือน ร่างกายจะแปรเปลี่ยนอย่างอัศจรรย์ ผู้เขียนยังไม่ได้หาสมุนไพรมาทดลองปรุงกินดู สมุนไพรพวกนี้หาได้เองยิ่งดี เพราะได้สมุนไพรสดใหม่ สะอาด และของจริงแท้ ถ้าซื้อจากร้านยาสมุนไพรไม่แน่นอน ที่ไม่ค่อยเข้าท่าคือไม่สะอาด เราจะเอามาล้างตอนมันแห้งแล้วก็ไม่สะดวก จึงควรแสวงหาตามบ้านนอกคอกนานั่นแหละ หาได้ง่ายครับ
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 3 |
ยานี้มีมาแต่สมัยอยุธยาเป็นราชธานี สมัยนั้นพระเจ้าแผ่นดินเมืองลังกาขอพระภิกษุจากประเทศสยามนำพระศาสนาไปเผยแพร่ไปเป็นอุปัชฌาย์บวชกุลบุตรให้ประพฤติปฏิบัติพระธรรมกรรมฐาน จะเป็นสมัยของพระเจ้าแผ่นดินขอบเราพระองค์ไหนไม่ทราบ ทราบแต่ว่าพระองค์ส่งพระพุทธโฆษาจารย์และคณะสงฆ์ไปหลายรูป เมื่อเดินทางเรือรอนแรมไปหลายวันก็เกิดอาพาธป่วยไข้กันหลายรูป ถึงเมืองลังกาแล้วจึงได้ยาดีจากตำราแขกลังกา เขาทำยาให้ฉัน เป็นยาบำรุงกำลังให้มีภูมิต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี ท่านจารึกเป็นตำราแขกลังกา เขาทำยาให้ฉัน เป็นยาบำรุงกำลังให้มีภูมิต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี ท่านจารึกเป็นตำราและฝอยไว้ว่า กินได้ 7 วันเสียงไพเราะดังจักจั่น กินได้ 2 อาทิตย์เสียงดุจนกการะเวก กินได้ 3 อาทิตย์ จะมีสติปัญญาดี เรียนได้ 3 เดือนจะเรียนพระธรรมจบ ตาจักสว่างดังแสงแก้วมณี กินได้ 4 เดือน พยาธิจะหายหมดสิ้น กินได้ 5 เดือนจะมีกำลังดุจพญาช้างสาร กินได้ 6 เดือนขึ้นไป จะได้ทิพยจักษุ พระอินทร์จะลงมาหา
เรื่องฝอยตำราโบราณบางทีก็ฟังหูไว้หู เพราะท่านกล่าวไว้เพื่อแสดงให้เห็นคุณภาพของยาเท่านั้นว่าวิเศษจริง คนที่เอามาทำกินจริง ๆ ก็บอกว่าดีมาก แต่ไม่ถึงขนาดมีหูทิพย์ตาทิพย์หรอก นอกจากผู้ปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา จนถึงขั้นได้ฌาน 4 ฌาน 8 โน่นแหละจึงจะได้ฤทธิ์เดชดังว่า แม้พระอินทร์ก็คงลงมาหาจริง ๆ เพราะพระอินทร์ท่านชอบทำบุญกับพระผู้วิเศษมีกิเลสอันเหือดแห้งแล้ว เรา ๆ ท่าน ๆ กินแล้วมีกำลังวังชา ไม่มีโรคภัยเบียดเบียนก็ดีถมแล้ว ตำรายามีดังนี้
- มหาหิงคุ์ 1 บาท
- การบูร 2 บาท
- ดอกดีปลี 3 บาท
- ขิงแห้ง 4 บาท
- เทียนทั้งห้า สิ่งละ 1 บาท
- ผักแพวแดง 6 บาท
- สมอทั้งสามสิ่งละ 7 บาท
- โกฏสอ 8 บาท
- โกฏเขมา 8 บาท
- ลูกจันทร์ 9 บาท
- พริกไทยล่อน 10 บาท
ท่านให้ทำเป็นยาผงผสมน้ำผึ้ง รับประทานเช้า-เย็น ครั้งละ 1 เม็ดพุทรา เป็นยารักษาธาตุให้บริบูรณ์ สุขภาพแข็งแรง มีภูมิต้านทานต่อโรคภัยไข้เจ็บได้ดี รับประทานประจำจะทำให้มีอายุยืนยาว
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 4 |
ยาขนานนี้มีที่มาจากภาคใต้ของไทยเรา มีคนใช้กันเยอะ เพราะอยู่ในดงของอิสลามซึ่งชาย 1 คน สามารถมีภรรยาได้ 4 คน ภรรยาจึงต้องแข่งขันกันเพื่อให้สามีรักที่สุด ร.ต.อ. เปี่ยม ได้นำมาเผยแพร่ แต่ผู้เขียนได้ตำรานี้จากน้องชายซึ่งเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์อินทร์ วัดโขลงดูบัว ราชบุรี ท่านแนะนำให้คุณหญิงคุณนายที่สามีแอบไปมีเมียน้อยทำกิน สามีกลับมาหาทุกราย ผู้เขียนก็มียานี้ไว้ประจำสำหรับคนมีปัญหาดังว่า ตำรายามีดังนี้
- หัวไพล 1 ขีด
- ขมิ้นอ้อย 1 ขีด
- ขมิ้นชัน 1 ขีด
- หัวแห้วหมู 1 ขีด
- หัวกระชาย 1 ขีด
- พริกไทยล่อน 2 ขีด
ต้องทำเป็นยาผงก่อน แล้วผสมน้ำผึ้งเป็นลูกกลอน รับประทานก่อนนอนวันละไม่เกิน 2 เม็ดในพุทรา ถ้ารับประทานมากจะผายลมตลอด หรือถ้าเป็นคนธาตุร้อนหรือโรคไต ไม่ควรกิน เพราะเป็นยาร้อน คนเฒ่าแก่กินดีมาก จะบำรุงธาตุไฟให้บริบูรณ์ และขับผายลมได้ดียิ่ง ตำราว่าแม้สตรีจะมีบุตรสัก 10 คนก็ยังเหมือนสาวน้อย
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 5 |
ตำรานี้ท่านพระยาเดโชได้มาจากประเทศเขมรคราวไปปราบเขมรที่เมืองเสียมราฐและได้เขมรมาเป็นเมืองขึ้นสมัยต้นกรุงโน่นแหละ ต้นตำราเป็นบทกลอนยาวเหยียด ความว่าท่านได้โปรดช้างเนียม หน้าเมืองโพธิสัตว์ เห็นอักษรจารึกที่ประตู ความว่า
ครั้นจะเข้าก็กลัวติดลิขิตบอก ครั้นจะออกก็กลัวติดลิขิตไป
เห็นเจ้าชีวิตคิดขยาดราชภัย ประนามัยหมอบประหม่าแหงนหน้ายล
หน่วยตาเล็งเพ่งพิศพินิจทั่ว เอาที่ตัวตนติดอย่าคิดฉงน
ท่านคิดปริศนาออก จึงขึ้นค้นบนซุ้มประตูวัดนั้นก็พบแผ่นทองคำจารึกด้วยอักษรขอมโบราณซ่อนไว้ ที่ซุ้มประตู เมื่อเอามาอ่านดูก็เห็นเป็นตำรายาใช้ขับโรคสารพัด ตำรายามีดังนี้
1. สมอเขียว 5 ผล ลงพระเจ้า 5 พระองค์ (นะโมพุทธายะ) ทุกผล
2. เม็ดในสลอด 7 เม็ด ลงหัวใจพระอภิธรรมเจ็ดคัมภีร์ (ลังวิธาปุกะยะปะ)
3. หัวแห้วหมู 2 หัว ลงมะอะอุ
4. หัวข้าวค่า 4 หัว ลงทุสะนะมิ
5. เถาบอระเพ็ด 3 ท่อน ๆ ละ 1 องคุลี ลงอิสะวาสุ
6. ใบคนทีสอ 32 ใบ ลงทวัดดิงสเสกด้วยอาการ 32
7. ยาดำ 1 บาท เสกด้วย เสกขาธัมมา อเสกขาธัมมา เนวเสกขานาเสกขาธัมมา
วิธีปรุงยานั้นมีขั้นตอนดังนี้
หลังจากลงอักขระปลุกเสกทุกสิ่งอันแล้วท่านให้แยกยาแต่ละชนิดใส่ถ้วยแต่ละใบ แล้วแช่น้ำผึ้งไว้ตั้งแต่วันเสาร์ จนครบ 1 อาทิตย์ จากนั้นเทน้ำผึ้งออกเอาแต่ตัวยา ยกเว้นที่แช่ใบคนทีสอเอาทั้งยาและน้ำผึ้ง นำตัวยาทั้งหมดมาบอดคลุกเคล้าเข้าด้วยกันจนแหละละเอียดดีแล้วก็ปั้นเม็ดเท่าเม็ดพุทธรักษา (โตกว่าเม็ดพริกไทย) วิธีรับประทาน วันแรกให้รับประทาน 1 เม็ด วันที่ 2 กิน 2 เม็ด ตั้งแต่วันที่สาม กินวันละ 3 เม็ดตลอดไป กินได้ 15 วันโรคภัยหายสิ้น กินได้ 1 เดือน ผิวพรรณจะผุดผ่อง กินได้เดือนครึ่ง จะต้านยาพิษได้ กินได้ 2 เดือน ร่างกายเบา เดินเหินไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กินได้ 3 เดือน สติปัญญาสมองปลอดโปร่ง
ท่านพระยาเดโชได้ตำรามาแล้วก็ทำตามตำรา ร่างกายท่านก็แข็งแรง ไม่เคยปวดเมื่อยอะไรเลย จากนั้นก็ลองให้ตาแก้วที่เป็นโรคเรื้อนกินดู ไม่นานก็หายจากโรคเรื้อน ยายเย็นเป็นมะเร็งเรื้อรังมานาน เมื่อกินยานี้ก็หายเช่นกัน นายสงเป็นริดสีดวงงอกที่ทวารหนัก พอกินยานี้ไม่นานมันก็หดหายไปไม่กลับคืนมาอีกเลย นายคงเป็นหืดหอบ จะนอบแบบชาวบ้านก็ไม่ได้ ต้องพิงหมอนหลับในท่านั่งทุกวี่วัน หลังจากกินยานี้ไม่นานก็หายจากโรคหืดหอบอย่างปลิดทิ้ง
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 6 |
- กล้วยน้ำสุก
- เนื้อมะตูมสุก
- พริกไทยล่อน
เอาตัวยาทั้งหมดมาตำเข้าด้วยกัน แล้วทำเป็นแผ่นตากให้แห้ง จากนั้นก็ใส่ขวดโหล ใส่น้ำผึ้งให้ท่วมยา ปิดฝาให้สนิท เก็บไว้ 2 อาทิตย์จึงเอาออกมารับประทานวันละ 1 ช้อนกาแฟ ผ่านไปเพียง 15 วันกำลังวังชาจะกลับคืนมา กินต่อไปถึง 30 วัน ผิวพรรณจะผุดผ่องเต่งตึง ความรู้สึกทางเพศก็กลับคืนดี คนอายุ 50 จะกลับมีแรงเหมือนอายุ 30 ปี ถ้ากินประจำจะมีอายุถึง 120 ปี
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 7 |
- หัวขิง
- หัวข่าเล็ก
- หัวแห้วหมู
- เถาบอระเพ็ด
- ดอกดีปลี
- กระเทียม
|
- รากแจง
- สมอเทศ
- สมอไทย
- สมอพิเภก
- สมอตีงู
- ลูกมะขามป้อม
|
สมุนไพรทั้งหมดนี้ใช้สัดส่วนเท่ากัน ตากแดดให้แห้งดีแล้วจึงทำเป็นยาผง ใช้ละลายน้ำร้อนรับประทานก่อนอาหารเย็น ทำให้นอนหลับสบาย ท้องไส้ทำงานดีไม่มีลมเบียดเบียน ร่างกายกลับแข็งแรง คนแก่ก็จะกลับเป็นหนุ่มสาว
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 8 |
ยานี้ชื่อยาเปลี่ยนร่าง มีนิทานเล่าประกอบว่า นานมาแล้ว จะเป็นเมืองอะไรท่านไม่ได้บอกไว้ มีชายคนหนึ่งอายุมากแล้ว ไปทำงานเฝ้าสวนหลวง ซึ่งอยู่ไกลจากบ้านมาก แต่เมื่อไปหาได้เอาบุตรภรรยาไปด้วยไม่ เมื่อทำงานก็มักถูกผู้บังคับบัญชาดุด่าเสมอ เพราะเป็นคนสุขภาพไม่ด เมื่อถูกดุด่าถูกทำโทษบ่อย ๆ ชายผู้นี้คืนหนึ่งนอนไม่หลับจึงเดินไปเรื่อย ๆ ไปพบต้นไม้ใหญ่จึงคิดว่าต้นไม้นี้ชะรอยจะมีเทวดาผู้มีศักดิ์สิงสถิตอยู่เป็นแน เขาจึงกราบที่โคนต้นไม้กล่าวขึ้นว่า ข้าพเจ้าเป็นคนสัตย์คนซื่อ แต่กำลังวังชาก็ลดน้อยถอยลงทุกที มีแต่ได้รับทุกข์โทษจากเจ้านายอยู่ทุกวัน ถ้าท่านเทพยดามีฤทธิ์พอจะช่วยกระทำให้ตัวข้าพเจ้านี้มีเรี่ยวแรงดุจคนหนุ่ม แล้วไซร้โปรดช่วยข้าพเจ้าด้วยเถิด แล้วเขาก็นอนหลับไปที่ใต้ต้นไม้นั่นเอง เทวดาจึงมาเข้าฝันบอกว่า เจ้าจงไปหาต้นยาเหล่านี้มาทำยากินเถิด แล้วจะแข็งแรงดุจคนหนุ่ม แต่อย่าเอาไปทำขาย ควรบอกกล่าวแก่ผู้อื่นเป็นทานเพื่อจะได้มีผลานิสงส์ต่อตัวเองต่อไปในภพหน้า ตัวยามีทั้งหมด 9 ชนิดด้วยกันคือ
- ลูกจันท์
- ดอกจันท์
- กระวาน
- กานพลู
- สมุลแว้ง
|
- มหาหิงค์
- หัสคุณเทศ
- ชะเอมเทศ
- พริกไทยสุก
|
ยาทั้งหมดนี้เอาน้ำหนักเท่า ๆ กัน ทำเป็นยาผงผสมน้ำผึ้ง รับประทานก่อนเข้านอนขนาดปลายนิ้วก้อย รับประทานได้ 1 เดือนโรคภัยไข้เจ็บจะหายสิ้น เจ้าจะกลับกลายเป็นคนหนุ่มอีก บอกแล้วเทวดาก็หายวับไป ชายผู้นั้นตื่นขึ้นจึงรู้ว่าฝันไป ตั้งแต่วันนั้นแกก็เที่ยวหาต้นสมุนไพรตามที่เทวดาบอกกล่าว นำมาทำยากินประจำ เวลาผ่านไปเพียงเดือนเศษร่างกายแกก็เปลี่ยนแปลง มีผิวพรรณวรรณะเปล่งปลั่ง ผมที่ร่วงก็กลับงอกงามดำขลิบขึ้นมา กินอาหารก็อร่อยดี หลับสนิท อาการปวดเมื่อยอ่อนเพลียหายไปสิ้น รู้สึกตัวเองเหมือนคนหนุ่มที่กำลังคึกคักดังโคถึก แกเฝ้าสวนได้อีกไม่นานก็ลากลับไปอยู่บ้านกับลูกเมีย เมื่อกลับไปถึงบ้านภรรยาจำไม่ได้ ต้องเรียกญาติ ๆ มาดู สืบสวนกันอยู่นาน
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 9 |
ชื่อยาลูกยอ เป็นตำรับยาที่หลวงพ่อโอภาษีได้มาจากพระครูนนท์ วัดใต้ปากพนังซึ่งมีอายุถึง 105 ปี เป็น ผู้มอบให้ มีส่วนประกอบดังนี้
- เถาบอระเพ็ด 6 บาท
- หัวกระเทียม 3 บาท
- พริกไทยล่อน 2 บาท
- เหง้าขิงแห้ง 1 บาท
- ยาดำ 3 บาท
- ลูกยอหนักเท่ายาทั้งหมดรวมกัน
เอายาทั้งหมดตากแดดให้แห้ง แล้วบดเป็นผงรวมกัน ผสมกับน้ำผึ้ง กินก่อนอาหาร เช้า-เย็น ครั้งละ 2 เม็ดพุทรา หรือขนาดปลายนิ้วก้อย ผ่านไป 1 เดือนโรคภัยจะหายสิ้น ผิวพรรณวรรณะจะกลับดูเหมือนหนุ่มสาว
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 10 |
- หัวกระชาย
- เหง้าขิงแห้ง
- หัวกะทือ
- ดอกดีปลี
- โด่ไม่รู้ล้ม
|
- สมอไทย
- รากเจตมูลเพลิง
- พริกไทยล่อน
- หรดาลกลีบทอง
|
ยาทั้งหมดนี้ให้บดเป็นผง ผสมน้ำผึ้งรวงรับประทานหลังอาหารเย็น จะทำให้เจริญอาหาร นอนหลับดี แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อ แก้ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย กินได้ 2 เดือนร่างกายจะกลับเป็นหนุ่ม
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 11 |
- เกสรบุญนาค หนัก 2 บาท
- สมอพิเภก หนัก 3 บาท
- สมอไทย หนัก 3 บาท
- มะขามป้อม หนัก 3 บาท
- ดอกดีปลี หนัก 3 บาท
|
- ลูกเร่ว หนัก 4 บาท
- ขิงแห้ง หนัก 3 บาท
- ว่านน้ำ หนัก 3 บาท
- ลูกราชดัด หนัก 2 บาท
|
ทั้งหมดบดผงผสมน้ำผึ้งรับประทานครั้งละลูกพุทรา รับประทานประจำแก้โรคกษัย โรคลม โรคในตัวทั้งปวง และทำให้กลับหนุ่มสาวเหมือนวัยรุ่น
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 12 |
ร.ต.อ.เปี่ยม บุณยะโชติเล่าว่าท่านไปพบหลวงปู่รูปหนึ่งอายุ 90 ปี อยู่วัดป่า เห็นท่านแข็งแรง เดินเหินคล่องแคล่ว นึกว่าอายุสัก 50-60 เมื่อถามอายุท่านบอกว่า 90 ปี จึงถามว่าท่านฉันยาอะไรจึงแข็งแรงเช่นนี้ หลวงปู่จึงให้สูตรยาที่ท่านฉันประจำดังต่อไปนี้
- รากเจตมูลเพลิง 10 บาท
- หัวแห้วหมู 20 บาท
- หัวกระชาย 20 บาท
|
- กระเทียม 20 บาท
- ยางสลัดได 20 บาท
- พริกไทยดำ 50 บาท
|
ทำให้เป็นผงผสมน้ำผึ้ง รับประทานหลังอาหารขนาดปลายนิ้วก้อย หรือตามธาตุหนักเบา
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 13 |
ยาขนานนี้เป็นของสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ท่านบันทึกไว้แต่ปี 2409 เป็นตำรายาที่ขึ้นชื่อมาก ส่วนมากหมอยาในกรุงเทพ ฯ และภาคกลางล้วนรู้จักและปรุงกินกันมาก แต่ท่านว่าอายุหนุ่มน้อยกินไม่สู้ดี เพราะธาตุไฟแรงจะเผาร่างกายให้ผ่ายผอม เหมาะสำหรับคนอ้วนต้องการลดความอ้วนกินยานี้น่าจะดี ตัวยามีดังนี้
- เปลือกทิ้งถ่อน
- เปลือกตะโกนา
- เถาบอระเพ็ด
- เมล็ดข่อย
|
- หัวแห้วหมู
- หัวกระชาย
- พริกไทยล่อน
|
ยาทั้งหมดสัดส่วนเท่ากัน ตากแห้งบดผงผสมน้ำผึ้งกินก่อนนอน วันละ 1-2 เม็ด ท่านว่ากินได้ 1 เดือนตัว พยาธิลำไส้ออกมาหมด หายจากอาการปวดเมื่อยอ่อนเพลียโดยไม่ต้องอาศัยหมอนวดบีบ การหมุนเวียนโลหิตดี เลือดลมไหลสะดวก เรื่องอย่างว่าก็สู้บ่ยั่นเหมือนกัน ถ้าเป็นพระทำฉันให้งดกระชายเสีย เพราะเป็นยาบำรุงกามารมณ์
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 14 |
- หัวขิงแห้ง
- หัวไพล
- หัวกะทือ
- หัวกระชาย
- หัวแห้วหมู
- รากแจง
|
- หัวยาข้าวเย็นเหนือ
- หัวยาข้าวเย็นใต้
- เนื้อมะขามเปียก
- พริกไทยล่อน
- เกลือแกง
|
เอายาทั้งหมดนี้มาตำเข้าด้วยกัน แล้วใส่โหลหรือกระปุกเก็บไว้รับประทานก่อนอาหาร หรือก่อนนอน เป็นยาขับถ่ายสิ่งโสโครกออกจากร่างกาย ถ้ารับประทานประจำโรคภัยหายหมด ผิวพรรณวรรณะก็ดีงาม กลิ่นตัว กลิ่นปากหรืออื่น ๆ จะหายไปหมด
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 15 |
ยานี้ชื่อยากำลังราชสีห์ ตัวยามี 5 อย่างด้วยกันคือ
- เถาบอระเพ็ด
- หัวแห้วหมู
- หัวกระชาย
- พริกไทยล่อน
- เกลือสะตุ
เอาตัวยาทั้งหมดมาตำเข้าด้วยกันแล้ว ใส่โหล ใส่สุราให้ท่วมยา ปิดให้สนิทแล้วนำไปฝังโคลนที่ชายน้ำในวันแรม 14 ค่ำ พอขึ้น 15 ค่ำของอีกเดือนหนึ่งจึงไปขุดขึ้นมารับประทาน ก่อนอาหารเย็นครั้งละ 1 ถ้วยตะไล จะแข็งแรง ปราศจากโรคภัยทั้งปวง จะมีกำลังดุจหนุมาน คำว่าแก่จะไม่มี ท่านว่าผู้มีบุญวาสนาเท่านั้นจึงได้รับประทาน แต่เรื่องการหมักโคลนนั้นมีเหตุผลทีต้องการความเย็น สมัยนี้ใส่ตู้เย็นย่อมเหมาะสมกว่า
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 16 |
- พริกไทย 7 เม็ด
- พริกขี้หนูแห้ง 7 เม็ด
- ขิง 7 แว่น
- ข่า 7 แว่น
|
- ข้าวสาร 7 เม็ด
- น้ำมันมะกอก 7 หยด
- น้ำมันจันท์ 7 หยด
- กล้วยน้ำว้า 7 ลูก
|
เอามาตำให้แหลกจนเข้ากันดีแล้วผสมน้ำผึ้ง ให้ทำวันแรม 7 ค่ำ กินวันละ ลูกพุทรา กำลังดีมาก
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 17 |
เอารากกะทกรกมาต้มกิน เวลาไปขุดรากกะทกรกให้ไปขุดวันอังคาร พอถึง 3 อังคารแล้วให้ต้มกิน ระหว่างที่ต้มหม้อที่ 1 นั้นก็ไปขุดในวันอังคารอีก 3 อังคาร รวมเป็น 6 อังคาร พอถึงวันอังคารที่ 7 ให้ต้มกิน รวมเป็น 2 หม้อ ต้มกินต่างน้ำชาก็ได้ เวลาขุดรากกะทกรกนั้นไม่ว่าจะได้มากหรือน้อยท่านให้คอนกลับบ้านแล้วเอามา แขวนไว้จนครบ 3 อังคาร และ 7 อังคาร ยานี้ต้องทำของใครของมัน จะให้คนอื่นทำให้ไม่ได้
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 18 |
- ต้นพญามุติทั้งห้า หนัก 8 ตำลึง
- สมอไทย 1 ตำลึง
- พริกไทยล่อน 1 ตำลึง
- ดอกดีปลี 1 ตำลึง
- เหง้าของแห้ง 1 ตำลึง
ตำเป็นผงผสมน้ำผึ้ง และน้ำนมวัว วิธีทำต้องเอาน้ำนมวัวและน้ำผึ้งมาต้มเคี่ยวจนงวดพอสมควรก็เอายาลงผสมคนให้เข้ากันดีแล้วก็ยกลง พอเย็นแล้วจึงปั้นเท่าเม็ดพุทรา รับประทานเช้าเย็นครั้งละ 1 เม็ด รับประทานได้ 2 เดือนโรคลมจะหาย หูจะได้ยินถนัด ตาจะสว่าง ผิวพรรณจะสวยงาม ร่างกายจะแข็งแรง ร.ต.อ.เปี่ยมเล่าว่า เดิมที่ได้ตำรายานี้มา หลวงศรีเทพบาล บ้านอยู่สะแกกรัง จังหวัดอุทัยธานี ได้เล่าว่ามี พระรูปหนึ่งธุดงค์มาแต่เมืองตะวันตก มาพักอยู่ที่วัดเสาวคนธ์ กรุงเทพ ฯ บอกว่าอายุ 70 ปี แต่ดูร่างกายท่านยังหนุ่มมาก หลวงศรีเทพบาลจึงขอตำรายาที่ท่านฉัน เมื่อได้มาแล้วก็ยังไม่ได้ทำ เพราะไม่รู้จักต้นพญามุติ จนมาถึง พ.ศ.2459 มีพระรูปหนึ่งได้นำต้นพระยามุติมาให้ดู และได้ทำยารับประทานตั้งแต่นั้นมา ร.ต.อ.เปี่ยมเล่าว่าท่านได้ทำยาขนานนี้รับประทานได้ 2-3 เดือน ลมออกหูก็หาย หูได้ยินชัดเจนดี ตาที่มัวก็กลับอ่านหนังสือได้ หน้าที่เคยเป็นฝ้าด่างดำก็หายไป ร่างกายก็แข็งแรง หลับสนิทดี ท่านบอกลักษณะต้นพระยามุติว่า ใบของมันคล้ายใบตั้งอ้อ ดอกคล้าย ๆ ตุ้มหู หรือคล้ายดอกผักกาดดอกแบนสีเหลือง ถ้าขึ้นตรงพื้นดินสมบูรณ์ต้นจะสูงถึง 2 ศอกเศษ ชอบขึ้นตามหาดทราย หรือดินปนทราย ใช้ทำแกงเลียงกินได้ บางคนเรียกต้นออ มีมากในเดือน ยี่-3
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 19 |
- ขมิ้นอ้อย
- ผักเสี้ยนผี
- โคกกระสุน
- หัวแห้วหมู
ตากแห้งบดเป็นผงผสมน้ำผึ้ง กินก่อนนอนวันละ 1 เม็ดพุทรา ทำให้เจริญอาหาร แก้จุกเสียดแน่นเฟ้อ
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 20 |
ให้เอารากข่อยมาต้มกินแทนน้ำ ช่วงแรกที่กินผิวจะดำคล้ำและลอกออกมาคล้ายงูลอกคราบ กินต่อไป เรื่อย ๆ รูปร่างจะเปลี่ยนแปลง ผิวพรรณผุดผ่องอ้วนท้วนสมบูรณ์ ผู้กินยานี้อายุได้ 160 ปี
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 21 |
เอาหัวแห้วหมูมาล้างให้สะอาด แล้วคั่วไฟ แล้วทุบให้แตก นำมาชงดื่มแบบน้ำชา แก้ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย ร่างกายแข็งแรง ตาสว่างดุจคนหนุ่ม ฟันทนแข็งแรง ร่างกายกลับเป็นหนุ่มสาว
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 22 |
- กำลังวัวเถลิง หนัก 3 บาท
- เปลือกตะโกนา หนัก 3 บาท
- เปลือกทิ้งถ่อน 3 บาท
- เขากวางอ่อน 3 บาท
- แสมทะเล 3 บาท
|
- เมล็ดข่อย 3 บาท
- รากส้มกุ้งใหญ่ 2 บาท
- รากส้มกุ้งน้อย 2 บาท
- หัวบัวขม 2 บาท
- ฝางเสน 2 บาท
|
เอาตัวยาทั้งหมดมาตำพอแหลก แล้วห่อผ้าขาวดองสุราไว้ 7 วัน กินวันละ 1 จอก หลังอาทิตย์ตกดิน
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 23 |
- เมล็ดข่อย
- พริกไทยล่อน
- หัวแห้วหมู
- หัวบัวขม
|
- หัวกระชายแก่
- ผักเสี้ยนผี
- โคกกระสุน
- เนื้อสมอทั้ง 3 อย่างละ 10
|
เอามาทุบดองสุรา กินก่อนอาหารเย็น กินประจำอายุยืนถึง 100 ปี แข็งแรงทำงานหนักได้ดุจคนหนุ่ม
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 24 |
เอาน้ำมะนาวเปรี้ยวจัด 1 ถ้วยตะไล ผสมกับน้ำสุก 1 แก้ว ผสมเกลือป่น 1 ช้อนกาแฟ คนดีแล้วดื่มจนหมดแก้ว ก่อนอาหารเช้าสัก 30 นาที กินติดต่อกัน 15 วัน และหยุด 10 วันจึงเริ่มดื่มใหม่ติดต่อกัน 3 วัน และหยุด 1 เดือนจึงเริ่มดื่มอีก วันละ 1 จอกแก้วยาดอง ท่านว่ารับรองผิวขาวเป็นนวลใย ไร้ไฝฝ้า
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 25 |
ตำรานี้ได้จากลายแทงขุมทรัพย์เมืองพิษณุโลก ท่านเขียนเป็นปริศนาไว้ บอกว่าถ้าใครคิดได้ให้ขุดลงไปจะได้ทองคำ 1 ตุ่ม คนมีปัญญาคิดได้จึงขุดลงไปก็พบตุ่มใบหนึ่งพร้อมกับใบลานจารึกตำรายาขนานนี้ ท่านเขียนไว้ให้ทานแก่สมณชีพราหมณ์และหญิงชายทั้งปวง ถ้าผู้ใดพบตำรานี้ขอให้บอกต่อ ๆ กันไปจะได้ผลานิสงส์มาก ตำรามีว่า
- รากช้าพลู 2 ตำลึง
- รากมะแว้งต้น 2 ตำลึง
- รากมะแว้งเครือ 2 ตำลึง
|
- รากมะเขือขื่น 2 ตำลึง
- เถาบอระเพ็ด 2 ตำลึง
- รากเจตมูลเพลิง 1 ตำลึง
|
ให้เอายาทั้งหมดมาตำเป็นผงแล้วผสมน้ำผึ้ง หรือน้ำอ้อยแดงก็ได้ ใส่หม้อผนึกไว้ให้ดี เอาทองแดงผูกคอหม้อหนัก 1 บาท แล้งฝังข้าวเปลือกไว้ 5 วัน แล้วรับประทานวันละ 1 ช้อนหอย สามารถแก้โรคทั้งปวง ผมหงอกจะกลับดำ อายุยืนถึง 100 ปี มีกำลังเจ็ดช้างสาร สำเนียงเสียงใส รูปงาม หาโรคมิได้ ถ้ารับประทานติดต่อกัน 6 เดือน สารพัดสัตว์ที่มีพิษกัดไม่เข้าเลย ถ้าเอาน้ำมูตร(ปัสสาวะ)ใส่ตุ่มไว้ เอาทองแดงแผ่ให้บางแช่ในน้ำมูตร(ที่เกิดจากกินยานี้) นาน 3 เดือน ทองแดงจะกลายเป็นทองคำธรรมชาติไม่มีขี้เลย ถ้าไม่จริงดังกล่าวขอให้ตัวข้าพเจ้าผู้ไว้ตำรานี้ ตกจตุราบายเทอญ.
ยาตำรับนี้ตรงกับตำรับที่ 2 ที่เป็นตำราเหนือ ความจริงในตำรับนั้นท่านบอกเป็นภาษาเหนือ แต่ผู้เขียนได้แปลให้เป็นภาษาไทยแล้ว ก็ตรงกับตำรับนี้ เป็นตำรับยาที่เกิดและถ่ายทอดในสมัยเดียวกัน เพราะเมืองพิษณุโลกและเชียงใหม่ เชียงราย เชียงแสน รวมไปถึงพระสงฆ์ทางพม่าได้ไปมาหาสู่กันไม่ขาด พระสงฆ์ก็ไป ๆ มา ๆ เพราะทางเชียงใหม่เลื่อมใสพระสงฆ์ทางสุโขทัย จึงนิมนต์พระทางสุโขทัยไปเผยแพร่พระศาสนา และเป็นสังฆราชาอยู่ทางโน้นในสมัยพระเจ้ากือนา ทางพิษณุโลกก็ได้สุโขทัยเป็นหลักเช่นกัน ตำรายามักเผยแพร่ไปกับพระสงฆ์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของชุมชนทุกหนทุกแห่ง และเป็นศูนย์กลางของการศึกษาด้วยเช่นกัน คนทางเหนือไม่สู้นิยมทำลายแทงเหมือนชาวพิษณุโลก มักเขียนใส่ใบลานเก็บใส่ตู้ไว้ตามวัดต่าง ๆ และบนหิ้งบูชาในบ้านของตนเองรวมกับคาถาอาคมอื่น ๆ จึงมักพบตำราลายแทงในเมืองพิษณุโลกและกำแพงเพชรเป็นส่วนมาก
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 26 |
ท่านให้เอาบอระเพ็ดพุงช้าง (สบู่เลือดเถา) มาหั่นตากแดดพอหมาด แล้วแช่กับน้ำตาลทรายแดงหรือสุราก็ได้ รับประทานเช้า-เย็น แก้มือเท้าชา แก้ปวดเมื่อยอ่อนเพลีย
|
ยาอายุวัฒนะ ขนานที่ 27 |
ท่านให้เอากล้วยน้ำว้าสุก 1 หวี ปอกเปลือกออกแล้วใส่โหล เอาน้ำผึ้งใส่ให้ท่วมกล้วย ดองไว้ 15 วัน แล้วรับประทานก่อนอาหารวันละ 1 ลูก บำรุงกำลัง บำรุงประสาท แก้โรคเบาหวาน นอนหลับสนิทดี
- หัวแห้วหมู
- รากแจง
- สมอไท
- พริกไทยล่อน
- อำพันทอง
- โสม
ทำเป็นยาผงผสมน้ำผึ้ง รับประทานครั้งละปลายนิ้วชี้หลังอาหารเช้าหรือเย็น
|